5 เทคนิคง่ายๆ ปรับโฆษณายังไงให้มีประสิทธิภาพ ยอดขายปัง!

หากคุณกำลังทำโฆษณาออนไลน์ผ่าน LINE Ads Platform อยู่แล้วไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ หรือใครที่ยังไม่เคยลองลงโฆษณาบน LINE Ads Platform แล้วอยากลองมาทางนี้ วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับเคล็ดลับการปรับแคมเปญโฆษณาของคุณให้มีประสิทธิภาพ ได้ผลลัพธ์ดี ยอดขายปัง! กันทั้ง 5เทคนิค เมื่อขึ้นสถานะ “กำลังเรียนรู้” แต่ถ้าหากโฆษณาของคุณได้รับการแสดงผลไม่เพียงพอ สถานการณ์เรียนรู้ไม่คืบหน้า ต้องทำอย่างไร? ไปดูกัน

ปรับโฆษณาบน LINE Ads Platform ด้วย 5 เทคนิคง่ายๆ

1. ขยายการเข้าถึงของกลุ่มเป้าหมายของคุณให้กว้างมากขึ้น เพราะถ้ากลุ่มเป้าหมายของคุณแคบจะส่งผลทำให้ราคาการแข่งขันนั้นมีราคาสูงขึ้น ดังนั้นจึงควรปรับขยายการเข้าถึงของกลุ่มเป้าหมายให้กว้างกว่าเดิม โดยการปรับ พื้นที่ เพศ อายุ ระบบปฏิบัติการ และความสนใจ
2. ปรับราคาเสนอ หรือ ราคา Bidding ให้มีราคาที่สูงขึ้น โดยอาจมีการปรับขึ้นครั้งละ 5-10 บาทขึ้นไป
3. ลองปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ราคาเป็นประจำ
4. ปรับโฆษณาให้น่าสนใจมากขึ้น เช่น สี รูป ความคมชัด หรือเพิ่มชิ้นงานโฆษณาเข้าไป และคุณควรเปรียบเทียบผลลัพธ์ของแต่ละงานโฆษณา เพื่อค้นหาโฆษณาที่มีประสิทธิภาพที่สุด
5. คอยวัดผลอย่างสม่ำเสมอ เมื่อคุณปรับแคมเปญเรียบร้อยแล้วให้ทำการตรวจสอบผลลัพธ์หรือการเปลี่ยนแปลงภายใน 1-2 วัน ก่อนที่จะทำการปรับแคมเปญเพิ่มเติม หากยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ

เคล็ดลับวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญในแต่ละระดับ

แคมเปญ

• กำหนดระยะเวลาและงบประมาณให้สัมพันธ์กับแคมเปญ เช่น งบประมาณต่อแคมเปญเพียง 100 บาท สำหรับใช้โฆษณาในเวลา 1 สัปดาห์ อาจไม่เพียงพอให้ระบบเรียนรู้
• กำหนดงบประมาณต่อแคมเปญเสมอ เพื่อให้ระบบปล่อยแคมเปญไม่เกินงบประมาณที่กำหนด

กลุ่มโฆษณา

• ไม่แนะนำให้เปิด-ปิด แคมเปญบ่อยๆ ควรให้เวลา 2-3 วัน เพื่อให้ระบบเรียนรู้
• หลีกเลี่ยงการคัดลอกหลายกลุ่มโฆษณา แนะนำให้คุณปรับแคมเปญโดยการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย เปลี่ยนกลยุทธ์การเสนอราคา ปรับราคาเสนอ และปรับโฆษณาตามผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
• ถ้าต้องการใช้งบแบบไม่จำกัด สามารถเพิ่มงบในแคมเปญเดียวกันได้ และควรเฉลี่ยงบไปในแต่ละกลุ่มโฆษณาที่ทำผลลัพธ์ที่ดีที่สุดได้เลย โดยคุณยังสามารถวางโครงสร้างกลุ่มโฆษณาในแต่ละกลุ่มได้ โดย การแยก 1 กลุ่มเป้าหมายต่อ 1 กลุ่มโฆษณา เช่น กลุ่มคนสนใจด้านบันเทิง กลุ่มคนเคยเข้าชมเว็บไซต์ คนที่มีความคล้ายคลึงกับเพื่อนของคุณใน LINE OA สุดท้ายจะทำให้คุณพบว่าในกลุ่มเป้าหมายใดบ้างที่ทำผลลัพธ์ออกมาได้ดี และสามารถต่อยอดการปรับงบประมาณได้
• การปรับการใช้กลยุทธ์การเสนอราคาที่เหมาะสม เช่น การกำหนดลิมิตราคาเสนอ (Bid cap), การกำหนดลิมิตราคาต่อคอนเวอร์ชัน (Event cost), กำหนดเป้าหมายราคาต่อเวอร์ชัน(Target event cost), กำหนดการใช้งบประมาณสูงสุดโดยไม่กำหนดลิมิตราคาต่อคอนเวอร์ชัน (No limit)
• ตั้งงบประมาณต่อวันให้สัมพันธ์กับจำนวนการเข้าถึงที่ระบบประเมิน
• ใช้งานกลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเอง ขนาดข้อมูลที่แสดงในระบบต้องไม่ต่ำกว่า 100 หากน้อยเกินไป คุณจะต้องทำการอัปโหลดข้อมูลเพิ่มเติมหรือรอให้ระบบทำการอัปเดตข้อมูลเองโดยอัตโนมัติก็ได้ เช่น หากข้อมูลเพื่อนใน LINE OA มีคนแอดเข้ามาเพิ่มหรือมีข้อมูลคนเข้าชมเว็บไซต์ที่มากขึ้น ระบบจะทำการอัปเดตข้อมูลที่แสดงบน LINE Ads Platform ให้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

โฆษณา

• รูปภาพโฆษณา ควรใส่ Call to Action ไว้ให้ชัดเจน เช่น ราคา โปรโมชั่น ไม่ควรใส่ข้อความในภาพโฆษณาเกิน 20%
• Landing Page ต้องพร้อมใช้งานเสมอในการเปิดผ่านสมาร์ทโฟน
• ปรับปรุงเนื้อหาปลายทางให้น่าสนใจ และสอดคล้องกับโฆษณา เช่น หากคุณทำการโฆษณาผ่านหน้า LINE OA ให้คุณปรับข้อความต้อนรับ และ Rich Menu, ถ้าไปยังเว็บไซต์ควรปรับการให้ข้อมูลที่ให้ประโยชน์ลูกค้าและวาง Call to Action ไว้ด้านบน กลาง และท้ายเนื้อหา

การวัดผล

• วางโครงสร้างการวัดผลด้วย Tracking ให้ครบถ้วน คือ การที่คุณนำ Base Code, Conversion Code และ Custom Event Code หรือ Event Code ที่คุณกำหนดเองไปติดในหน้าเว็บไซต์ที่คุณต้องการติดตามผลให้ครบถ้วน เพื่อที่คุณจะได้สามารถนำข้อมูลที่ได้นั้นมาวิเคราะห์ข้อมูลต่อได้
• ดูผลลัพธ์ให้เป็น ปรับให้ถูกทาง เช่น เพิ่มเพื่อนให้ดูที่ช่อง “คลิก” ,ดูอัตราการคลิกต่อการแสดงให้ดูที่ช่อง CTR, เช็กราคาต่อการเพิ่มเพื่อนได้ที่ช่อง CPC, และคุณยังสามารถตรวจสอบค่าใช้จ่ายได้ด้วยตลอดเวลา

เพียงเท่านี้คุณก็สามารถปรับแคมเปญโฆษณาของคุณบน LINE Ads Platform ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ได้แล้ว