สโลแกนใหม่ “Life on LINE” จุดที่น่าสนใจภายในงานครั้งนี้จึงอยู่ที่การเปิดเผยแนวคิดใหม่ในการให้บริการหลังจากนี้ ว่า LINE จะไม่ได้เป็นแค่แชท Platform เพื่อให้ผู้บริโภคใช้สื่อสารอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของทุกคนตลอด 24 ชั่วโมง (Life on LINE) โดยภายใต้แนวคิดดังกล่าว LINE แบ่งธุรกิจส่วนหลักออกเป็นการเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ผู้ใช้จากโลกออฟไลน์ รุกไปในธุรกิจ FinTech และการนำ AI มาช่วย ที่กลายเป็น 3 แกนหลักต่อจากนี้ ได้แก่ “Offline”, “Fintech” และ “AI” สร้าง LINE ให้กลายเป็น Hub ผ่านแนวคิด O2O และ OMO ในการให้บริการเชื่อมโลกออนไลน์สู่ออฟไลน์
และ LINE มีการปรับตัวค่อนข้างมากพอควร เน้นการขยายโปรดักส์อย่างเนื่อง อย่างในประเทศไทยจากเดิมที่มีแค่บริการโซเชียลมีเดียทั่วไป ก็ได้เสริมบริการ LINE TV และ LINE MAN เข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ กลายเป็น All-In-One Platform ที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ดูเหมือนจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ เพราะในงาน LINE CONFERENCE 2019 ทาง LINE ได้มีการเปิดวิสัยทัศน์ครั้งใหญ่ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อีกเพียบ
เปิดฟังก์ชั่นใหม่ “LINE Mini App”
ก่อนหน้านี้ สิ่งที่ LINE ทำมาตลอดคือการเปลี่ยนจากร้านค้าในโลกออฟไลน์ให้หันมาใช้งานโลกออนไลน์ ด้วยแพลตฟอร์มการขายรูปแบบก่อนหน้าบน Line Official Account แต่ในปีนี้ LINE มองว่า ต้องบูรณาการระหว่างโลกออนไลน์ และ ออฟไลน์ ให้มาผสมผสานเพื่อยกระดับบริการของร้านค้าให้หลากหลายมากขึ้นจึงได้เริ่มแนะนำ LINE Mini App ขึ้นมา ซึ่งเป็นการเพิ่มความสามารถของ Line Official Account ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
ภายใน LINE Mini App ร้านค้า หรือ SMEs จะสามารถสร้างหน้าร้านหรือหน้าเพจของแต่ละร้านขึ้นมา พร้อมเลือกนำฟีเจอร์ที่มีอยู่ใน LINE มาใช้งาน เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงบริการต่างๆได้ง่ายขึ้น
อย่างเช่นร้านอาหาร สามารถดึงฟีเจอร์อย่างระบบสมาชิก การรับจองโต๊ะอาหารมาใช้งาน ถ้าเป็นร้านขายกาแฟ ก็จะเลือกเพิ่มการเก็บสะสมคูปอง เพื่อตอบแทนลูกค้า ไปจนถึงร้านขายของก็สามารถเลือกใช้ LINE เป็นช่องทางชำระเงินเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทันที รวมถึงการที่ร้านอาหารสามารถใช้เป็นช่องทางติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้ด้วย
Share:
Facebook
Twitter
Email
LinkedIn